เล่นสดอย่างไร โดยใช้ MIDI CONTROLLER
การยกมิดี้คอนโทรลเลอร์แบบคีย์บอร์ดออกไปเล่นสดนั้น เป็นเรื่องทำได้ แต่ก็ต้องมีอุปกรณ์ต่อพ่วงอีกหลากหลาย ไม่ต่างกับการทำงานในบ้าน ทั้งคอมพิวเตอร์ ออดิโออินเตอร์เฟส ซึ่งทำให้ไม่สะดวกในการต้องต่อจัดการสายต่างๆ และต้องแบกอุปกรณ์จำนวนมาก หลากหลายอุปกรณ์สินค้าของ IK Multimedia นั้น คิดมาเพื่อให้นักทำเพลงสามารถพกพาอุปกรณ์ทำเพลง ไปใช้นอกสถานที่ได้สะดวก ให้ที่ไหนๆ ก็ทำเพลงได้ ซึ่ง iRig Keys 2 Pro ก็อยู่ในโจทย์นี้เช่นกัน iRig Keys 2 Pro ทำให้การนำคีย์บอร์ดคอนโทรลเลอร์ไปใช้นอกสถานที่นั้นสะดวกขึ้น เพราะได้รวมสิ่งที่จำเป็นในการใช้งานไว้ครบครัน รวมถึงเลือกต่อใช้แหล่งเสียงได้ทั้งจากคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ iOS ข้อดีที่สุดของการนำ iRig Keys 2 Pro ไปใช้งานนอกสถานที่ก็คือ การมีภาค Audio Output หรือซาวด์การ์ดอยู่ที่ตัว iRig Keys 2 Pro เลย ทำให้สามารถส่งสัญญาณเสียงออกมาจากตัวมิดี้คอนโทรลเลอร์ได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้ Audio Interface ลองใช้งาน iRig Keys 2 Pro iRig Keys 2 Pro เป็นคีย์บอร์ดมิดี้คอนโทรลเลอร์ ที่มีจำนวน 37 คีย์ (3 Octave) มีปุ่มหมุนตั้งค่าได้ 5 ปุ่มหมุน โดยมีปุ่ม Data ที่เป็นปุ่มหมุนแบบหมุนได้รอบไม่มีจุดสิ้นสุด 1 ปุ่ม และปุ่มหมุนแบบมีช่วงซ้ายขวาอีก 4 ปุ่ม โดยทั้งสี่ปุ่มนี้สามารถตั้งค่าการใช้งานได้สองค่าสลับการทำงานได้ ทำให้เราสามารถตั้งค่าการทำงานให้ปุ่มหมุนต่างได้พร้อมกัน 9 ค่า หรือเหมือนมีตัวควบคุมค่าคอนโทรลเลอร์ 9 ตัว ช่องต่อต่างๆ ที่ iRig Keys 2 Pro มาให้นั้นครบถ้วนให้ใช้งานได้ทั้งกับงานทำเพลงในสตูดิโอ จนถึงการใช้เป็นเครื่องดนตรี ยกไปเล่นนอกสถานที่ โดย iRig Keys 2 Pro ใช้การเชื่อมต่อกับคอมและอุปกรณ์ iOS ผ่านสาย USB มี่ช่องต่อ Sustain และ Expression มาให้หนึ่งช่อง มีช่อง Midi in/Out มาให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์มิดี้อื่นได้ โดยช่องต่อนี้ทำมาในฟอร์แมตช่อง Phone แต่ก็มีหัวแปลงเป็นช่องมิดี้มาตรฐานมาให้ มีช่องต่อ Audio Out (Phone) ทำให้ iRig Keys 2 Pro ทำหน้าที่เป็นซาวด์การ์ดเพื่อส่งสัญญาณเสียงออกไปได้ด้วย
AW_Online-05.jpg
ผมลองใช้งาน iRig Keys 2 Pro บน Windows 10 โดยเริ่มจากการฟังเพลงผ่านช่องต่อหูฟัง เสียงที่ได้นั้นได้คุณภาพดี ความถี่เสียงครบและไม่มีเสียงรบกวนใดๆ ถือว่าในส่วนการทำงานแบบซาวด์การดนั้นผ่าน ในเรื่องคุณภาพเสียงมาตรฐาน ผมลองใช้ iRig Keys 2 Pro ในรูปแบบมิดี้คอนโทรลเลอร์ ความรู้สึกในการเล่นตัวคีย์นั้น การกดให้น้ำหนักดี สัมผัสดี การตอบสนองของคีย์ค่อนไปทางหน่วงแต่ไม่ถึงกับแข็ง คีย์ไม่ยวบ การเด้งกลับของคีย์เร็ว ทำให้เล่นได้ดีทั้งในแบบเปียโนและซินธิ์ การตั้งค่าการตอบสนองของน้ำหนักการกดคีย์กับ Velocity สามารถตั้งได้ 6 แบบ 
  • Fixed 64 ค่าคงที่ โดยการกดทุกครั้งไม่ว่ากดหนักหรือเบา จะได้ค่า Velocity ที่ 64
  • Fixed 100 ค่าคงที่ โดยการกดทุกครั้งไม่ว่ากดหนักหรือเบา จะได้ค่า Velocity ที่ 100
  • Fixed 127 ค่าคงที่ โดยการกดทุกครั้งไม่ว่ากดหนักหรือเบา จะได้ค่า Velocity ที่ 127
  • VEL SENS, LIGHT กดคีย์เบาๆ ก็ได้ค่า Velocity มาก ไม่ต้องใช้แรงกดเยอะ
  • VEL SENS, NORMAL ค่ามาตรฐานที่โรงงานตั้งมา อยู่ตรงกลางระหว่าง Light และ Heavy
  • VEL SENS, Heavy ต้องกดคีย์แรงมากๆ ถึงจะได้ค่า Velocity มากๆ
การตั้งค่าตอบสนอง Velocity ได้นี้ ทำให้เราเลือกใช้การตอบสนองให้เหมาะกับการเล่นของเราได้ ถ้าเราเป็นคนกดคีย์เบา ก็เลือกแบบ Light ถ้ากดคีย์แรงมากๆ ก็เลือกแบบ Heavy ผมเองลองใช้แล้ว ค่าที่โรงงานตั้งมาให้คือ Normal นั้น ต้องใช้น้ำหนักการกดมากไป ผมจึงเลือกใช้แบบ Light ปุ่มหมุนควบคุมบนตัว iRig Keys 2 Pro นั้นให้ความรู้สึกในการหมุนที่ไว ปุ่มไม่มีความหนืดมากนัก การตั้งค่าต่างๆ บนตัว iRig Keys 2 Pro ทำได้โดยการกดเข้าสู่ Edit Mode ด้วยการกดปุ่ม Octave ทั้งสองปุ่มพร้อมกัน จากนั้นเลือกการตั้งค่าที่ต้องการได้โดยการใช้การกดที่ตัวคีย์บอร์ด เป็นการเลือกการตั้งค่าต่างๆ โดยบนตัว iRig Keys 2 Pro ไม่ได้มีจอแสดงผล การตั้งค่าต่างๆ เราดูได้จากสัญญาณไฟบนปุ่ม PROG ที่จะกระพริบให้เรารู้ว่าเราตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว ข้อเด่นอีกอย่างหนึ่งของ iRig Keys 2 Pro คือสามารถเก็บการตั้งค่าทุกอย่างทั้งค่าควบคุมของปุ่มหมุน ค่าน้ำหนักกการกดคีย์ การ Transpose ไว้ได้ 4 ชุด โดยแต่ละชุดเรียกว่า Set (Preset) โดยเราเปลี่ยน Set ได้ง่ายๆ ด้วยการกดปุ่ม Set ที่เป็นปุ่มแยกไว้ชัดเจน ทำให้เราควบคุมจัดการอุปกรณ์ได้หลายรูปแบบตามค่า Set แต่ละชุดที่เราทำไว้ จุดที่แข็งแกร่งอีกจุดหนึ่งของ iRig Keys 2 Pro นั้นคือ มีปลั๊กอิน SampleTank 4 SE และ SampleTank for iPhone/iPad มาให้ด้วย
AW_Online-06.jpg
SampleTank นั้นเป็นปลั๊กอินแบบ Sample ที่ทาง IK Multimedia พัฒนามานาน เป็น Sample ที่ไม่เป็นรองใคร ตัว SampleTank 4 SE นั้นให้เสียงต่างๆ กว่า 2000 เสียง ในขนาดความจุกว่า 30 GB จึงพอเพียงสำหรับเป็นคลังเสียงในการทำเพลงได้อย่างเหลือเฟือ เฉพาะราคาขาย SampleTank 4 SE อย่างเดียว ก็มีราคาเกือบหกพันบาทแล้ว การแถมมาให้ผู้ใช้ iRig Keys 2 Pro นั้น จึงคุ้มค่าสุดๆ การที่ iRig Keys 2 Pro มีระบบซาวด์การ์ดในตัว เพื่อเล่นเสียงได้นั้น เป็นข้อสะดวกมากทั้งสำหรับการทำเพลงนอกสถานที่และการเล่นสด เพราะในการออกไปนอกสถานที่ บางทีเราไม่ได้ต้องการอัดเสียงแต่ต้องการทำบีทหรือโปรแกรมมิดี้ เราก็แค่มี iRig Keys 2 Pro ไปโดยไม่ต้องพก Audio Interface ไปอีก ในการทำงานก็แค่เสียบ iRig Keys 2 Pro  กับคอมหรืออุปกรณ์ iOS ก็เริ่มทำงานได้ ลดความยุ่งยากเรื่องการเชื่อมต่ออุปกรณ์และการพกพาไปได้มาก ข้อเด่นมากอีกอย่างหนึ่งคือ iRig Keys 2 Pro  สามารถใช้งานแบบ Stand Alone ได้ เพื่อใช้ควบคุมอุปกรณ์มิดี้อื่นๆ โดยสามารถจ่ายไฟให้ iRig Keys 2 Pro ได้จาก Power Bank หรือ USB Adaptor โดยไม่ต้องเสียบกับคอม แล้วต่อมิดี้ควบคุมอุปกรณ์อื่นๆ ได้จากช่อง Midi Out ทำให้มีทางเลือกในการใช้งานได้อีกหลากหลายรูปแบบ
AW_Online-07.jpg
บทสรุป น้ำหนักและสัมผัสของคีย์นั้นดีแบบคีย์บอร์ดมืออาชีพ การปรับค่าต่างๆ นั้น เรียนรู้และเข้าใจได้ง่าย การปรับทุกอย่างทำได้บนตัวอุปกรณ์ ไม่ต้องใช้โปรแกรมช่วย สิ่งที่คุ้มค่ามากคือการมี SampleTank4 SE แถมมาให้ ถ้าคุณมองหามิดี้คอนโทรลเลอร์ที่ไม่ใหญ่ ให้ทุกอย่างมาครบทั้งเพื่อการทำงานในสตูดิโอและนอกสถานที่ – iRig Keys 2 Pro คือหนึ่งในตัวเลือกที่ห้ามพลาด  
———————————————————— ผู้เขียน ธนภัทร แสงสุตะโกศล(บอม) – โปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำเพลงโฆษณาและศิลปินวง Tea or Me ปัจจุบันเปิดเพจ “มนุษย์ทำเพลง”แนะนำการทำเพลงและสอนทำเพลงแบบออนไลน์ ติดตามเฟสบุ๊คเพจได้ที่ https://www.facebook.com/RiddimerStudio/

ใส่ความเห็น