LDAC เทคโนโลยีใหม่ เพื่อการฟังเพลงระดับ Hi-Res

ใครที่เป็นสายฟังเพลงมานาน คงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของไอเทมฟังเพลงในปัจจุบันอย่าง Smartphone ที่เดี๋ยวนี้เริ่มไม่มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. กันแล้ว เพราะกระแสหูฟังแบบไร้สายที่มาแรงมาก ๆ จนสายฟังเพลงต้องหันไปหาหูฟังแบบไร้สาย หรือ True Wireless มาใช้งานแทน

ปัจจุบัน Sony ได้พัฒนา LDAC เทคโนโลยีใหม่ ที่จะช่วยให้การฟังเพลงผ่าน Bluetooth ได้คุณภาพเสียงที่คมชัด พร้อมจุดเด่นอีกมากมาย ที่จะยกระดบัการฟังเพลงของคุณให้ได้คุณภาพเสียงแบบ Hi-Res



LDAC คืออะไร สำคัญกับการฟังเพลงอย่างไร ?

LDAC คือ เทคโนโลยี่ที่ถูกพัฒนาโดย Sony ที่สามารถส่งสัญญาณได้เร็วกว่าเทคโนโลยี่ไร้สายอื่น ๆ ได้ถึง 3 เท่า และให้เสียงระดับ Hi-res ผ่าน Bluetooth ด้วยความเร็วสูง Audio format แบบ Hi-Res 24-bit/96 kHz โดยมี bit-rate สูงสุดถึง 990 kBit/s

โดย LDAC สามารถเลือกที่จะส่งผ่านข้อมูลได้ 3 รูปแบบ คือ Connection, Standard และ Sound Quality (รูปแบบ Profile โดยเฉพาะชื่อ อาจเปลี่ยนไปตาม Device ที่ใช้)

1. Connection

รูปแบบการส่งข้อมูลที่สตรีมมิ่งในระดับ 330 kbps ข้อดี คือ ใช้ไฟฟ้าน้อย ทำให้การใช้แบตเตอรี่ไม่เปลืองมากเท่า Profile อื่นๆ และเหมาะสำหรับไฟล์เสียงที่ความละเอียดไม่สูงมาก โดยเฉพาะไฟล์เพลงในตระกูล Lossy

2. Standard

รูปแบบการส่งข้อมูลที่สตรีมมิ่งในระดับ 660 kbps ใช้แบตเตอรี่มากขึ้น แต่ก็เหมาะกับไฟล์ในระดับ 16bit/44k หรือในตระกูล Lossless อื่น ๆ ที่ยังไม่ถึงขั้น Hi-res

3.Sound Quality

การส่งข้อมูลในระดับสูงสุดที่ 990 kbps แน่นอนว่าเหมาะกับไฟล์ในระดับ Hi-Res โดยเฉพาะ

สรุปได้ว่า LDAC เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยอัปเกรดคุณภาพเสียงในการฟังเพลงผ่าน Bluetooth ให้ได้คุณภาพเสียงที่คมชัดที่สุด ผ่านวิธีการบีบอัดข้อมูลให้มีขนาดเล็กลง สำหรับการรับส่งข้อมูลบน Bluetooth แต่จำเป็นต้องใช้คู่กับอุปกรณ์ฟังเพลงที่รองรับเท่านั้นครับ

ใส่ความเห็น