เล่นสดอย่างไร โดยใช้ MIDI CONTROLLER
13/06/2023 25/08/2023
เล่นสดอย่างไร โดยใช้ MIDI CONTROLLER
การยกมิดี้คอนโทรลเลอร์แบบคีย์บอร์ดออกไปเล่นสดนั้น เป็นเรื่องทำได้ แต่ก็ต้องมีอุปกรณ์ต่อพ่วงอีกหลากหลาย ไม่ต่างกับการทำงานในบ้าน ทั้งคอมพิวเตอร์ ออดิโออินเตอร์เฟส ซึ่งทำให้ไม่สะดวกในการต้องต่อจัดการสายต่างๆ และต้องแบกอุปกรณ์จำนวนมาก
หลากหลายอุปกรณ์สินค้าของ IK Multimedia นั้น คิดมาเพื่อให้นักทำเพลงสามารถพกพาอุปกรณ์ทำเพลง ไปใช้นอกสถานที่ได้สะดวก ให้ที่ไหนๆ ก็ทำเพลงได้ ซึ่ง iRig Keys 2 Pro ก็อยู่ในโจทย์นี้เช่นกัน
iRig Keys 2 Pro ทำให้การนำคีย์บอร์ดคอนโทรลเลอร์ไปใช้นอกสถานที่นั้นสะดวกขึ้น เพราะได้รวมสิ่งที่จำเป็นในการใช้งานไว้ครบครัน รวมถึงเลือกต่อใช้แหล่งเสียงได้ทั้งจากคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ iOS
ข้อดีที่สุดของการนำ iRig Keys 2 Pro ไปใช้งานนอกสถานที่ก็คือ การมีภาค Audio Output หรือซาวด์การ์ดอยู่ที่ตัว iRig Keys 2 Pro เลย ทำให้สามารถส่งสัญญาณเสียงออกมาจากตัวมิดี้คอนโทรลเลอร์ได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้ Audio Interface
ลองใช้งาน iRig Keys 2 Pro
iRig Keys 2 Pro เป็นคีย์บอร์ดมิดี้คอนโทรลเลอร์ ที่มีจำนวน 37 คีย์ (3 Octave) มีปุ่มหมุนตั้งค่าได้ 5 ปุ่มหมุน โดยมีปุ่ม Data ที่เป็นปุ่มหมุนแบบหมุนได้รอบไม่มีจุดสิ้นสุด 1 ปุ่ม และปุ่มหมุนแบบมีช่วงซ้ายขวาอีก 4 ปุ่ม โดยทั้งสี่ปุ่มนี้สามารถตั้งค่าการใช้งานได้สองค่าสลับการทำงานได้ ทำให้เราสามารถตั้งค่าการทำงานให้ปุ่มหมุนต่างได้พร้อมกัน 9 ค่า หรือเหมือนมีตัวควบคุมค่าคอนโทรลเลอร์ 9 ตัว
ช่องต่อต่างๆ ที่ iRig Keys 2 Pro มาให้นั้นครบถ้วนให้ใช้งานได้ทั้งกับงานทำเพลงในสตูดิโอ จนถึงการใช้เป็นเครื่องดนตรี ยกไปเล่นนอกสถานที่ โดย iRig Keys 2 Pro ใช้การเชื่อมต่อกับคอมและอุปกรณ์ iOS ผ่านสาย USB มี่ช่องต่อ Sustain และ Expression มาให้หนึ่งช่อง มีช่อง Midi in/Out มาให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์มิดี้อื่นได้ โดยช่องต่อนี้ทำมาในฟอร์แมตช่อง Phone แต่ก็มีหัวแปลงเป็นช่องมิดี้มาตรฐานมาให้ มีช่องต่อ Audio Out (Phone) ทำให้ iRig Keys 2 Pro ทำหน้าที่เป็นซาวด์การ์ดเพื่อส่งสัญญาณเสียงออกไปได้ด้วย
ผมลองใช้งาน iRig Keys 2 Pro บน Windows 10 โดยเริ่มจากการฟังเพลงผ่านช่องต่อหูฟัง เสียงที่ได้นั้นได้คุณภาพดี ความถี่เสียงครบและไม่มีเสียงรบกวนใดๆ ถือว่าในส่วนการทำงานแบบซาวด์การดนั้นผ่าน ในเรื่องคุณภาพเสียงมาตรฐาน
ผมลองใช้ iRig Keys 2 Pro ในรูปแบบมิดี้คอนโทรลเลอร์ ความรู้สึกในการเล่นตัวคีย์นั้น การกดให้น้ำหนักดี สัมผัสดี การตอบสนองของคีย์ค่อนไปทางหน่วงแต่ไม่ถึงกับแข็ง คีย์ไม่ยวบ การเด้งกลับของคีย์เร็ว ทำให้เล่นได้ดีทั้งในแบบเปียโนและซินธิ์
การตั้งค่าการตอบสนองของน้ำหนักการกดคีย์กับ Velocity สามารถตั้งได้ 6 แบบ
Fixed 64 ค่าคงที่ โดยการกดทุกครั้งไม่ว่ากดหนักหรือเบา จะได้ค่า Velocity ที่ 64
Fixed 100 ค่าคงที่ โดยการกดทุกครั้งไม่ว่ากดหนักหรือเบา จะได้ค่า Velocity ที่ 100
Fixed 127 ค่าคงที่ โดยการกดทุกครั้งไม่ว่ากดหนักหรือเบา จะได้ค่า Velocity ที่ 127
VEL SENS, LIGHT กดคีย์เบาๆ ก็ได้ค่า Velocity มาก ไม่ต้องใช้แรงกดเยอะ
VEL SENS, NORMAL ค่ามาตรฐานที่โรงงานตั้งมา อยู่ตรงกลางระหว่าง Light และ Heavy
VEL SENS, Heavy ต้องกดคีย์แรงมากๆ ถึงจะได้ค่า Velocity มากๆ
การตั้งค่าตอบสนอง Velocity ได้นี้ ทำให้เราเลือกใช้การตอบสนองให้เหมาะกับการเล่นของเราได้ ถ้าเราเป็นคนกดคีย์เบา ก็เลือกแบบ Light ถ้ากดคีย์แรงมากๆ ก็เลือกแบบ Heavy ผมเองลองใช้แล้ว ค่าที่โรงงานตั้งมาให้คือ Normal นั้น ต้องใช้น้ำหนักการกดมากไป ผมจึงเลือกใช้แบบ Light
ปุ่มหมุนควบคุมบนตัว iRig Keys 2 Pro นั้นให้ความรู้สึกในการหมุนที่ไว ปุ่มไม่มีความหนืดมากนัก
การตั้งค่าต่างๆ บนตัว iRig Keys 2 Pro ทำได้โดยการกดเข้าสู่ Edit Mode ด้วยการกดปุ่ม Octave ทั้งสองปุ่มพร้อมกัน จากนั้นเลือกการตั้งค่าที่ต้องการได้โดยการใช้การกดที่ตัวคีย์บอร์ด เป็นการเลือกการตั้งค่าต่างๆ โดยบนตัว iRig Keys 2 Pro ไม่ได้มีจอแสดงผล การตั้งค่าต่างๆ เราดูได้จากสัญญาณไฟบนปุ่ม PROG ที่จะกระพริบให้เรารู้ว่าเราตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว
ข้อเด่นอีกอย่างหนึ่งของ iRig Keys 2 Pro คือสามารถเก็บการตั้งค่าทุกอย่างทั้งค่าควบคุมของปุ่มหมุน ค่าน้ำหนักกการกดคีย์ การ Transpose ไว้ได้ 4 ชุด โดยแต่ละชุดเรียกว่า Set (Preset) โดยเราเปลี่ยน Set ได้ง่ายๆ ด้วยการกดปุ่ม Set ที่เป็นปุ่มแยกไว้ชัดเจน ทำให้เราควบคุมจัดการอุปกรณ์ได้หลายรูปแบบตามค่า Set แต่ละชุดที่เราทำไว้
จุดที่แข็งแกร่งอีกจุดหนึ่งของ iRig Keys 2 Pro นั้นคือ มีปลั๊กอิน SampleTank 4 SE และ SampleTank for iPhone/iPad มาให้ด้วย
SampleTank นั้นเป็นปลั๊กอินแบบ Sample ที่ทาง IK Multimedia พัฒนามานาน เป็น Sample ที่ไม่เป็นรองใคร ตัว SampleTank 4 SE นั้นให้เสียงต่างๆ กว่า 2000 เสียง ในขนาดความจุกว่า 30 GB จึงพอเพียงสำหรับเป็นคลังเสียงในการทำเพลงได้อย่างเหลือเฟือ เฉพาะราคาขาย SampleTank 4 SE อย่างเดียว ก็มีราคาเกือบหกพันบาทแล้ว การแถมมาให้ผู้ใช้ iRig Keys 2 Pro นั้น จึงคุ้มค่าสุดๆ
การที่ iRig Keys 2 Pro มีระบบซาวด์การ์ดในตัว เพื่อเล่นเสียงได้นั้น เป็นข้อสะดวกมากทั้งสำหรับการทำเพลงนอกสถานที่และการเล่นสด เพราะในการออกไปนอกสถานที่ บางทีเราไม่ได้ต้องการอัดเสียงแต่ต้องการทำบีทหรือโปรแกรมมิดี้ เราก็แค่มี iRig Keys 2 Pro ไปโดยไม่ต้องพก Audio Interface ไปอีก ในการทำงานก็แค่เสียบ iRig Keys 2 Pro กับคอมหรืออุปกรณ์ iOS ก็เริ่มทำงานได้ ลดความยุ่งยากเรื่องการเชื่อมต่ออุปกรณ์และการพกพาไปได้มาก
ข้อเด่นมากอีกอย่างหนึ่งคือ iRig Keys 2 Pro สามารถใช้งานแบบ Stand Alone ได้ เพื่อใช้ควบคุมอุปกรณ์มิดี้อื่นๆ โดยสามารถจ่ายไฟให้ iRig Keys 2 Pro ได้จาก Power Bank หรือ USB Adaptor โดยไม่ต้องเสียบกับคอม แล้วต่อมิดี้ควบคุมอุปกรณ์อื่นๆ ได้จากช่อง Midi Out ทำให้มีทางเลือกในการใช้งานได้อีกหลากหลายรูปแบบ
บทสรุป
น้ำหนักและสัมผัสของคีย์นั้นดีแบบคีย์บอร์ดมืออาชีพ การปรับค่าต่างๆ นั้น เรียนรู้และเข้าใจได้ง่าย การปรับทุกอย่างทำได้บนตัวอุปกรณ์ ไม่ต้องใช้โปรแกรมช่วย สิ่งที่คุ้มค่ามากคือการมี SampleTank4 SE แถมมาให้
ถ้าคุณมองหามิดี้คอนโทรลเลอร์ที่ไม่ใหญ่ ให้ทุกอย่างมาครบทั้งเพื่อการทำงานในสตูดิโอและนอกสถานที่ – iRig Keys 2 Pro คือหนึ่งในตัวเลือกที่ห้ามพลาด
————————————————————
ผู้เขียน ธนภัทร แสงสุตะโกศล(บอม) – โปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำเพลงโฆษณาและศิลปินวง Tea or Me ปัจจุบันเปิดเพจ “มนุษย์ทำเพลง”แนะนำการทำเพลงและสอนทำเพลงแบบออนไลน์ ติดตามเฟสบุ๊คเพจได้ที่ https://www.facebook.com/RiddimerStudio/